วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Facebook ดึงตัวอดีตวิศวกรผู้ผลิต ไอโฟน (iPhone) มาร่วมผลิต Facebook Phone [ข่าวลือ]

สำหรับข่าวคราวของ Facebook Phone ที่ว่ากันว่า ทาง Facebook ต้องการผลิตโทรศัพท์มือถือแบรนด์ตัวเองนั้น เริ่มมีข้อมูลมากขึ้นแล้วครับ ซึ่งข่าวลือก่อนหน้านั้น เปิดเผยว่า Facebook Phone นั้น จะผลิตโดยบริษัท เอชทีซี (HTC) และคาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 นี้ ในขณะเดียวกัน ทาง ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เอง ก็สนใจที่จะทำ Facebook phone ด้วยเช่นกัน



     อย่างไรก็ดี มีข่าวอัพเดทล่าสุด เกี่ยวกับ Facebook phone ที่น่าสนใจ โดยสำนักข่าว New York Times ได้เปิดเผยว่า Mark Zuckerberg และทีมงาน กำลังพูดคุยกับอดีตพนักงานบริษัท Apple ที่เคยอยู่สายการผลิตทั้ง ไอโฟน (iPhone) และ ไอแพด (iPad) มาก่อน เพื่อให้มาร่วมด้วยช่วยกัน ผลิต Facebook phone ขึ้นมา โดยอดีตพนักงานบริษัท Apple ที่คาดว่าจะดึงตัวมานั้น มีหลายคน


        นอกจากนี้ ยังได้มีอดีตวิศวกรจาก Apple ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ไปพบกับ Mark Zuckerberg เป็นการส่วนตัวจริง ซึ่ง Mark Zuckerberg นั้น ได้สอบถามข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน จึงมีความเป็นไปได้ที่ ทาง Facebook น่าจะเริ่มจริงจัง กับการผลิตมือถือแบรนด์ตัวเองอย่างแน่นอนแล้ว หลังจากเคยร่วมพัฒนากับทางแอนดรอยด์โฟน ด้วยการเปิดตัว HTC ChaCha ขึ้นมานั่นเอง

    ส่วนสเปค และหน้าตา Facebook phone นั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลออกมา แต่คาดว่า น่าจะเปิดตัวราวๆ ปีหน้า

 
รายละเอียดเพิ่มเติม : phonearena.com

ยับ!! facebook ถูกฟ้อง หมกเม็ดประเมิณหุ้นก่อนเข้าตลาด



 
   
 
     หลังจากเข้าตลาดหุ้นไปเมื่อ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา สัปดาห์เดียวเท่านั้น  Facebook  Inc  รวมทั้ง Morgan Stanley ผู้จำหน่ายหุ้น facebook ได้ถูกเหล่าผู้ถือหุ้นยื่นฟ้องในคดีหมกเม็ดการประเมิณราคาหุ้นเฟสบุ๊คก่อน เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
 
 
    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานกรณี ผู้ร่วมถือหุ้นเฟสบุ๊คได้ยื่นฟ้องต่อ บริษัท facebook และผู้จำหน่ายหลักทรัพย์ ในข้อหาร่วมกันปิดบัง การประเมิณมูลค่าหุ้นที่แท้จริง ก่อนนำเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เป็นผลให้ราคาซื้อขายหุ้นเฟสบุ๊คในขณะนี้ ลดลงกว่า 2,900 ล้านดอลลาร์  และผู้ถือหุ้นได้รับผลกระทบจากระดับราคาที่ตกลง  ซึ่งก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ได้ออกมาพูดถึง ระดับราคาที่สูงเกินจริงของ facebook เนื่องจากการกระตุ้นรายรับจากเหล่าผู้ใช้ ไม่เป็นที่ชัดเจน และมีรายงานว่า ทาง Morgan Stanley  กับเหล่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ทราบกันว่าหุ้นของทาง facebook จะตกลง แต่ก็ไม่ได้แจ้งแก่ผู้ถือหุ้นรายย่อย ส่งผลให้ทางเฟสบุ๊คเองอาจจะต้องถูกดำเนินการสอบสวนจากรัฐบาลกลางในกรณีดัง กล่าว !!
 
 
 www.popcornfor2.com

 

เจ้าสาวในชุดกี่เพ้า "เอลลา (Ella) - S.H.E" หมั้นหมายแฟนหนุ่มชาวมาเลเซีย







20120418News01_Front


      ซูเปอร์ สตาร์สาวขวัญใจชาวไต้หวัน "เอลลา" (Ella) แห่งวง S.H.E ปรากฏโฉมในชุดกี่เพ้าสุดสวยในการหมั้นหมายกับแฟนหนุ่มชาวมาเลเชีย "อัลวิน ไล" (Alvin Lai) กับพิธีที่จัดกันตามแบบประเพณีจีน ในมณฑลผิงตง ตอนใต้ของไต้หวัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

       หนึ่งในสามสมาชิกของกลุ่มศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปขวัญใจชาวไต้หวัน เอลลา หรือ เฉินเจียฮว่า แห่ง S.H.E ได้เข้าพิธีหมั้นหมายกับแฟนหนุ่มชาวมาเลเซีย อัลวิน ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าสาวคนสวยแต่งกายด้วยชุดแบบจีน สีแดงสดใสในพิธีซึ่งจัดกันที่บ้านเกิดของฝ่ายหญิง พิธีเริ่มต้นด้วยการคำนับกันของคู่บ่าวสาวตามประเพณี หลังจากนั้นจึงคำนับพ่อแม่ของแต่ละฝ่าย ก่อนจะแลกเปลี่ยนแหวนหมั้นแทนใจ นอกจากนั้นยังมีการใช้เกี้ยวที่ประดับตกแต่งจนสวยงาม มาเป็นส่วนหนึ่งของพิธีที่ปฏิบัติแบบธรรมเนียมดั้งเดิมด้วย

       "เจ้าบ่าวของฉันเขาหล่อ, ใจดี และยึดถือในสิ่งถูกต้องค่ะ" เอลลากล่าวถึงแฟนหนุ่มของเธอ และยังพูดแบบติดตลกเรียกเสียงหัวเราะในงานอีกว่า "ฉันจะรักเขาไปเป็นหมื่นๆปีเลยค่ะ"

       ในช่วงท้าย เอลลา ยังเปลี่ยนจากชุดกี่เพ้ามาเป็นชุดราตรีสีฟ้า เพื่อต้อนรับแขกระหว่างการเลี้ยงอาหารค่ำ อย่างไรก็ตามในงานครั้งนี้ เซลีนา (Selina) กับ ฮีบี้ (Hebe) เพื่อนซี้จากวง S.H.E ไม่ได้มาร่วมพิธีด้วยแต่อย่างใด โดยพวกเธอสัญญาว่าจะไปร่วมในงานแต่งที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 พ.ค. ที่กรุงไทเปอย่างแน่นอน

Manager Online

อึ้ง"มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก"ควงคู่รักฉลองฮันนีมูนสุดประหยัด "ดื่มน้ำเปล่า-เมินทิปบ๋อย"เจ้าของร้านงง






     สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และพริสซิลล่า ชาน ได้ฉลองการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์หลังจากทั้งสองได้วิวาห์กันหมาดๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่สื่อพบว่า ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊คที่มีรายได้มหาศาลกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ได้เลี้ยงกันฉลองกันอย่างประหยัดอย่างเหลือเชื่อ โดยมาร์ค ได้เข้าร้านอาหารที่อิตาลี ในย่านชาวยิว ในกรุงโรม และได้รับประทานอาหารอย่างพื้น ๆ รวมทั้งน้ำเปล่าและน้ำชา และไม่มีเบียร์หรือไวน์ ทั้งหมดเป็นเงินเพียง 32 ยูโร และไม่ได้ให้ทิปใด ๆ แก่บริกร ขณะที่บริกรถึงกับอึ้งเนื่องจากคิดว่า ชาวอเมริกันร่ำรวยส่วนใหญ่มักจะใจดี และนิยมให้ทิปแก่บริกร แม้แต่เจ้าของร้านก็ยังประหลาดใจ คิดว่า ร้านของเขาบริการไม่ดี และเข้าไปถามมาร์ค แต่เจ้าพ่อเฟซบุ๊คบอกว่า ทุกอย่างโอเค

     รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าพ่อเฟซบุ๊กไม่ได้ให้ทิปแก่บริกร เพราะก่อนหน้านี้ เขาก็ทำเช่นนี้เมื่อรับประทานอาหารดินเน่อร์ ระหว่างเยี่ยมชมย่านประวัติศาสตร์ของอิตาลี โดยการฉลองฮันนีมูนของทั้งสองถูกคุ้มกันอย่างลับๆ  แต่ถูกพบเห็นจากนักท่องเที่ยวโปแลนด์ ที่โบสถ์แห่งหนึ่ง และได้ถ่ายรูปเขา ก่อนโพสต์ลงทวิตเตอร์

http://www.matichon.co.th

“ชินเซคยอง” (Shin Se Kyung) สวยเก่งแบบเหมาๆ สวมมาดพรีเซนเตอร์-นักร้อง โปรโมตร้านกาแฟ








         ชินเซคยองนั้นถูกเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับร้านกาแฟเจ้าหนึ่ง ซึ่งเพลงที่ร้องโดยชินเซคยองนั้นจะเป็นหนึ่งในเพลงที่ไว้ใช้โปรโมตร้าน


       ทางเอเจนซี่ได้ออกมาเปิดเผยว่า “ก่อนหน้านี้ทาง เราได้จัดออดิชั่นเพื่อหาคนมาร้องเพลงให้กับแบรนด์ของพวกเรา และเราได้วงที่จะมาร้องเพลงร่วมกับเธอแล้ว เพลงดังกล่าวจะถูกปล่อยออกมาในวันที่ 13มิถุนายน แต่นี่ไม่ใช่การเดบิวท์ในฐานะนักร้องของชินเซคยอง”
 
       ผู้คนต่างค้นพบว่าเธอนั้นก็มีความสามารถทางด้านเสียงร้องจากหนังเรื่อง Blue Saltและซีรีย์ของเธอล่าสุดในเรื่อง Fashion Kingทางสถานี SBS



http://www.popcornfor2.com

ชื่อเสียงกับการชี้วัดค่าตัวงานโฆษณาวิธีการแบ่งเกรด?

 

 
      
 
     ชื่อเสียงกับการชี้วัดค่าตัวงานโฆษณา วิธีการแบ่งเกรด? คิมซูฮยอนกับ ฉายา King of CF และค่าตัวกว่า แปดพันล้านวอน

 

      นักแสดงที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก จะจัดตามลำดับที่ได้จากลำดับการค้นหาชื่อทางอินเตอร์เนต จากแหล่งสำรวจที่เชื่อถือได้ และ จัดทำเป็นลำดับออกมา ซึ่งรายละเอียด มาตรฐานต่างๆอาจจะแตกต่างกันออกไปตามเอเจนซี่
 
 
      สำหรับนักแสดงทั่วไปหากว่าต้องการผันตัวเองมาเป็นนักแสดงโฆษณาละก็ เงื่อนไขหลักเลยก็คือจะต้องประสบความสำเร็จในด้านการร้องเพลง ภาพยนตร์ หรือ ละคร เสียก่อน
 
 
 
      ยกตัวอย่างเช่น ลีจองแจ นักแสดงที่ได้รับค่าตัวมากถึง สามสิบล้านวอน ในปี 1996 ซึ่งก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการประสบความสำเร็จจากภาพยนตร์เรื่อง “รุ่งอรุณของผู้ใช้แรงงาน” ซึ่งก็ได้ส่งผลให้เขากลายเป็นนักแสดงร้อยล้านวอนในทันที และตัวอย่างเช่นนี้ก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ “คิมซูฮยอน” นักแสดงหนุ่มกับบทบาทของ “ฮวอน” จากเรื่อง “ดวงจันทร์ที่โอบกอดพระอาทิตย์” ของช่อง MBC จากละครเรื่องนี้เองได้ส่งผลให้เขา ถูกคัดเลือกให้แสดงโฆษณากว่า 17 ชิ้น และกลายเป็น top star ของวงการโฆษณา ด้วยเวลาไม่นานกับจำนวนชิ้นงานโฆษณาของเขานั้น ส่งให้เขาได้สร้างสถิติใหม่ขึ้นมา โดยลบสถิติเดิมซึ่งคิมฮยอนอาได้ทำเอาไว้ และเมื่อไม่นานมานี้เอง เขาก็ได้รับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา น้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อพีโจน” “คิมซูฮยอน”นั้น หลังจากที่เสร็จสิ้นจากการถ่ายทำละครเรื่อง “ดวงจันทร์ที่โอบกอดพระอาทิตย์” เขาก็ได้เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาให้กับสินค้ามากมาย และหลายหลาย อาทิเช่น ซัมซุงโน๊ตบุ๊ค, outdoor, ชุดสูทยี่ห้อ ZIOZIA, เครื่องสำอางค์ในเครื่องLG, Prospecs, ไอศกรีม Natuur, Cj เจลลี่, เครื่องดื่มของ ยาคูลท์ม กาแฟ Angelinus, เบียร์ Cass, Sk Telecom, Canon Camera, Domino Pizza เกี่ยวกับเรื่องนี้ หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องของเบียร์ยี่ห้อ OB ได้เปิดเผยว่า สำหรับ คิมซูฮยอนนั้น ถึงแม้ว่าทั้งๆที่เขาเองก็ถ่ายโฆษณาสินค้ามากมายหลากหลายชนิด แต่เพราะอิมเมจของเขาตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเบียร์ จึงส่งผลให้เบียร์ยี่ห้อ Cass ซึ่งเขาเป็นพรีเซนต์เตอร์อยู่นั้นมียอดจำหน่ายสูงขึ้นมากจนถึงขนาดสินค้าขาด ตลาดเลยทีเดียว
 
 
       ทางด้าน Keyeast ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเขากล่าวว่า จำนวนโฆษณาที่ได้เขาได้ถ่ายทำในปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วถึงสิบเท่า และมีรายได้จากการโฆษณารวมแล้วกว่าแปดพันล้านวอน ก่อนหน้านี้ ในกรณีของ “ฮยอนบิน”นั้น จากละครเรื่อง “ซีเครท กาเดนท์” ทาง SBS ได้รับค่าตัวจากการถ่ายโฆษณารวมแล้ว ประมาณ สี่พันล้านวอน และเขาก็ได้รับฉายาว่าเป็น “King of CF” และยังได้รับค่าตัวจากการเซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์ เป็นเวลาหนึ่งปี อีกประมาณ เจ็ดร้อยล้านวอน อีกด้วย
 
 
 
      ค่าตัวของการเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา (ค่าตัว ห้าร้อยล้านวอนขึ้นไป จัดว่าอยู่ในกลุ่ม พรีเซนเตอร์เกรด เอ)
 
 
สองพันล้านวอน : ซอแทจี
พันสองร้อยล้านวอน : คิมฮยอนนา
พันล้านวอน : ชองจีฮุน (Rain), แบยองจุน
แปดร้อยล้านวอน : ชางดงกอน, โชอินซอง, โซจีซอบ, ลียองแอ, โคฮยอนจอง
เจ็ดร้อยล้านวอน : วอนบิน, ซงซึงฮยอน, ชองอูซอง, นิชคุณ, ลีมินโฮ, ฮยอนบิน, ลีฮโยลี, ซงเฮคโย, ลีมีฮยอน, ชอนจีฮยอน
หกร้อยล้านวอน : ลีนายอง, ซงกังโฮ, ปาร์คจินยอง, ยูแจซอค, ชาซึงวอน, คงยู, คังดงวอน, ลีจึนกี
ห้าร้อยล้านวอน : อันซองกี, แพคยุนชิค, คงอนซังอู, ลีพยองฮยอน, ชองจุนโน, ซาอี. คังโฮดง, คิมแรวอน, โคซู, คิมฮยอนจุง, ฮันกาอิน, คิมเฮซู, ชินมินนา, ซนดัมบี, อิมซูจอง
 
 
      การกำหนดค่าตัวของดารานักแสดงนั้น มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง? ในกรณีนี้จะไม่มีเงื่อนไขที่ตายตัว พูดง่ายๆเลยก็คือ “case by case” นั่นเอง ในกรณีของชาวต่างชาติค่าตัวจะเพิ่มขึ้นไปตามแต่รายการที่ได้เข้าร่วม ยกตัวอย่างเช่น เอว่า จากรายการ Star Beauty ทาง KBS2 ที่ได้รับค่าตัวในการโฆษณาครั้งละ ยี่สิบล้านวอน และ จากการเซ็นสัญญาปีละ สี่สิบล้านวอน  ในส่วนของนักแสดงตลกนั้น ก็ได้มีนักแสดงหลายคนที่ได้ผันตัวเองมาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา อาทิเช่น คิมวอนฮโย และคิมจุนฮยอน ที่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ของเครือข่ายโทรศัพท์ LG U-plus , คิมกียอล ก็เช่นกัน ได้ผันตัวเองมาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา ด้วยค่าตัวกว่าสิบล้านวอน. ชังแจอิน จาก M-net Superstar K ด้วยเช่นกัน จากโฆษณา Vans ทำให้เธอได้กลายเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาระดับร้อยล้านวอนในทันที
 
 
     ลีเจฮุน จากภาพยนตร์และละครเรื่อง King of Fashion ทาง SBS ก็เช่นกัน ค่าตัวของเขา หกเดือน สองร้อยล้านวอน หนึ่งปี สามร้อยห้าสิบล้านวอน ซึ่งเป็นจำนวนที่ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว , โชจองชิค ที่แสดงภาพยนตร์คู่กับเขาก็เช่นกัน หลังจากที่ละครเรื่อง “The King two Heart” ทางช่อง MBC ได้ออกอากาศ ค่าตัวของเขา หกเดือน แปดสิบล้านวอน หนี่งปี ร้อยสามสิบล้านวอน , ชองซอกวอน จากละครเรื่อง “Roof top Prince” ก็เช่นกัน ค่าตัวของเขา หกเดือน ห้าสิบล้านวอน หนึ่งปี หนึ่งร้อยล้านวอน ซึ่งทำให้เขาได้รับการตอบรับเสมือน พรีเซนร์เตอร์เกรด เอ เลยทีเดียว
 
 
     โดยทั่วไปแล้วพรีเซนเตอร์เกรดเอ นั้น จะมีค่าตัวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ สามร้อยถึงสามร้อยห้าสิบล้านวอน. แต่โดยทั่วไปแล้วในความเป็นจริงมักจะได้รับมากกว่านั้น . พรีเซนเตอร์เกรดเอ นั้น ในกรณีที่เป็นสัญญาระยะสั้น ค่าตัวจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้านวอน หากเป็นสัญญาระยะยาวจะอยู่ที่ประมาณ หนึ่งร้อยล้านวอนขึ้นไป. ส่วนพรีเซนเตอร์เกรดบีนั้น สัญญาระยะสั้น ค่าตัวจะไม่ต่ำกว่าสามสิบล้านวอน หากเป็นสัญญาระยะยาวจะอยู่ที่ประมาณ เจ็ดสิบล้านวอน เป็นต้นและ พรีเซนเตอร์เกรด ซี นั้น จะอยู่ที่ประมาณ สิบล้านวอน
 
http://www.welovekhun.com

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Taxi Reporter ร้องเรียนพฤติกรรมของแท็กซี่ที่ไม่เหมาะสม ผ่านแอพพลิเคชั่นบน iOS

     


          เชื่อได้เลยว่า หลายๆ ท่านในทีนี้ คงจะพบเจอกับประสบการณ์ที่แสนย่ำแย่ ในการใช้บริการแท็กซี่ ไม่ว่าจะเป็น การโกงค่าโดยสาร, การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารในช่วงเวลาเร่งรีบ, ขับรถไม่สุภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับแท็กซี่เหล่านี้ดี บางท่านคงทำได้แต่โพสลงหน้า Facebook หรือ โพสแจ้งเตือนผ่านทางห้องรัชดา ในเว็บไซต์พันธุ์ทิพย์ แต่จะดีแค่ไหน ถ้าหากข้อมูลร้องเรียนเหล่านี้ สามารถร้องเรียนได้โดยตรงไปยังกรมขนส่งทางบก ด้วยเหตุนี้ จึงก่อให้เกิด แอพพลิเคชั่น Taxi Reporter ขึ้นมา



        โดยแอพพลิเคชั่น Taxi Reporter นี้ พัฒนาโดย บริษัท สยามสแควร์ เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวกลางรับเรื่องร้องเรียน จากผู้เดือดร้อนในการใช้บริการแท็กซี่ ไปยังกรมขนส่งทางบกครับ โดย แรงบันดาลใจ ที่ทำให้ผู้พัฒนา ตัดสินใจสร้างแอพพลิเคชั่นนี้ขึ้นมา ก็มาจากปัญหาการใช้บริการรถแท็กซี่ในปัจจุบันนั่นเอง มาดูกันว่า Taxi Reporter นี้ มีขั้นตอนการใช้งานอย่างไรบ้าง


                                    



      ขั้นตอนแรก จะให้ใส่หมายเลขทะเบียนรถแท็กซี่ ซึ่งจะมีลิสรายการให้เลือกครับ แต่ก่อนจะผ่านไปยังขั้นตอนที่ 2 ต้องทำการตรวจสอบด้วยว่า เราใส่หมายเลขทะเบียนถูกต้องหรือไม่


       

         ขั้นตอนที่ 2 ถ้าหากต้องการแจ้งแค่ว่า เรากำลังนั่งอยู่บนแท็กซี่หมายเลขทะเบียนนี้ ให้กดที่ปุ่ม Check-in ได้เลยครับ แต่ถ้าหากต้องการจะร้องเรียนด้วยล่ะก็ ให้เลือกหัวข้อเรื่องที่ต้องการร้องเรียนซึ่งได้แก่ ไม่รับผู้โดยสาร, ฝ่าฝืนกฏจราจร, มีพฤติกรรมหยาบคาย และ โกงค่าโดยสาร





         ขั้นตอนที่ 3 ถ้าหากมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ที่นอกเหนือจากหัวข้อร้องเรียนในข้างต้น สามารถเพิ่มเติมได้ในนี้


         

          ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบข้อมูล และกด submit เพื่อส่งข้อมูล






       นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนา ได้เพิ่มเติมว่า เนื่องจากกระแสตอบรับของแอพพลิเคชั่น Taxi Reporter ออกมาดีเกินคาด จึงได้เข้าไปคุยกับทางกรมขนส่งทางบกเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ คาดว่าจะประมาณเดือนหน้า ทางกรมขนส่งทางบก จะสามารถรับเรื่องร้องเรียนผ่านทางแอพพลิเคชั่นนี้ได้ทั้งหมด


แฟนเพจ Taxi reporter : http://www.facebook.com/taxireporter


        หลังจากที่มีการเปิดเผยภาพแรก ที่ถ่ายโดยใช้แว่นตา Google Project Glass ออกมาแล้ว (ข่าวเก่า) ล่าสุด เป็นการเปิดเผยคลิปวิดีโอ ที่ใช้ Google Project Glass ถ่ายโดยผู้บันทึกนั้น ได้ทำการสวมแว่นตา Google Project Glass แล้วกระโดดบน trampoline ซึ่งเป็นการกระโดดแบบตีลังกาครับ (ลองดูคลิปวิดีโอท้ายข่าวประกอบ)
  


   

    

      นอกจาก Google Project Glass จะสามารถถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอได้แล้ว ยังสามารถใช้งานในรูปแบบอื่นๆ ได้เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน เช่น สอบถามสภาพอากาศ, ส่งข้อความ หรืออีเมล เพียงแต่ว่า ทุกการกระทำนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้มือ แต่ใช้การสั่งงานแทน


 
รายละเอียดเพิ่มเติม : mashable.com


วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Samsung Galaxy Note 10.1 ออกแบบใหม่ มีช่องเสียบปากกา S Pen มาให้ด้วย



      หลังจากที่ ซัมซุง (Samsung) ประกาศเลื่อนวางจำหน่ายแท็บเล็ต Samsung Galaxy Note 10.1 ออกไป เป็นเดือนมิถุนายน เนื่องจากต้องการอัพเกรดซีพียูเป็นแบบ Quad-core Processor จากเดิม Dual-core (ข่าวเก่า) ล่าสุด ได้มีภาพ Samsung Galaxy Note 10.1 ดีไซน์ใหม่ครับ ซึ่ง นอกจากจะมีการเปลี่ยนซีพียู เป็นแบบ Quad-core Processor แล้ว ตัวเครื่อง ยังได้มีการออกแบบใหม่อีกเล็กน้อย นั่นก็คือ เพิ่มช่องสำหรับปากกา S Pen ที่ไว้ขีดเขียนบนหน้าจอ ซึ่งถือว่า ปากกา S Pen นั้น กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Samsung Galaxy Note ไปแล้วนั่นเอง




     ถ้าหากใครยังจำ Samsung Galaxy Note 10.1 ตอนเปิดตัวได้ คงจะทราบดีว่า ในตอนแรก Samsung Galaxy Note 10.1 นั้น ไม่มีช่องสำหรับปากกา S Pen ครับ ส่วนวันวางจำหน่าย และราคา Samsung Galaxy Note 10.1 นั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าเมื่อใด





รายละเอียดเพิ่มเติม : androidpolice.com

Diablo III (Diablo 3) ครองตำแหน่ง เกมพีซีที่ขายดีที่สุด ด้วยยอดขาย 3.5 ล้านชุด เพียงแค่วันเดียว




      Blizzard Entertainment ผู้พัฒนาเกม Diablo ทั้ง 3 ภาค ได้ออกมาประกาศความสำเร็จของ Diablo III กับยอดจำหน่ายสูงที่สุดในประวัติการณ์ โดย เพียงแค่วันแรก สามารถทำยอดขายไปได้ถึง 3.5 ล้านชุด ซึ่งถือว่า เป็นสถิติการจำหน่ายที่เร็วที่สุดในวงการเกมพีซี ทั้งบน Windows และ Mac เลยทีเดียว






       ซึ่งตัวเลข 3.5 ล้านชุดนี้ ยังไม่รวมผู้เล่นเกม World of Warcraft ที่จ่ายเงินเป็นรายปี ที่ได้รับเกม Diablo III ไปเล่นฟรี อีกจำนวน 1.2 ล้านชุดอีกด้วย


      สำหรับยอดขาย Diablo III ในสัปดาห์แรก อยู่ที่ 6.3 ล้านชุดครับ ซึ่งตัวเลขนี้ ยังไม่รวมผู้เล่นจากประเทศเกาหลีใต้ ที่นั่งเล่นเกม Diablo III ในร้านอินเทอร์เน็ต โดยที่ประเทศเกาหลีใต้ ถือว่า เป็นประเทศที่มีผู้เล่นเกม Diablo III มากที่สุด คิดเป็นส่วนแบ่งมากกว่า 39% นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม แต่ถ้าหากเทียบยอดขายเกมทั้งบนพีซี และเกมคอนโซล ต้องยกให้กับเกม Modern Walfare 3 ครับ ส่วนยอดขายของ Diablo III จำนวน 6.3 ล้านชุดนี้ เฉพาะบนพีซีเท่านั้น



 
รายละเอียดเพิ่มเติม : engadget.com

แฟนๆ ชาวไต้หวันของแจจุง (Jae Joong) ต้อนรับอย่างอบอุ่น


        ในวันที่ 23 พฤษภาคมแจจุง (Jae Joong) จาก JYJ เดินทางไปไต้หวันเพื่อไปร่วมกิจกรรม 2012 Kim Jae Joong Fan Meeting in Taipei สำหรับโปรโมทละครเรื่อง Protect the Boss    ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เขาเดินทางไปถึง แจจุงก็ถูกแฟนๆ ทักทายด้วยเสียงเชียร์มากกว่า 600 คนที่มาต้อนรับที่ท่าอากาศยาน ตัวแทนของท่าอากาศยานเปิดเผยว่า “มันควรจะเป็นเพียงแค่การเดินทางมาสั้นๆ เพื่อมาร่วมงานแฟนมีทติ้ง ดังนั้นพวกเราไม่ได้คิดว่าจะมีคนมากมายที่ท่าอากาศยาน” หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานข่าวเกี่ยวกับการเดินทางไปถึงของเขา

       สปอนเซอร์ของกิจกรรมเปิดเผยว่า “เรื่อง Protect the Boss ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากที่ไต้หวัน แต่การที่ทุกคนชื่นชอบละครเรื่องนี้ยังมีสูงอยู่มาก ดังนั้นจึงมีการพูดคุยกันว่าจะออกอากาศอีกรอบในอนาคต พวกเราได้จัดงานแฟนมีทติ้ง 2,500 ที่นั่ง และบัตรเหล่านั้นถูกจำหน่ายหมดภายในระยะเวลาไม่กี่วินาทีที่เปิดจำหน่าย และระบบยังล่มในเวลานั้นอีกด้วย พวกเราต่างประหลาดใจในความนิยมในตัวแจจุง”

        แจจุงเริ่มงานแฟนมีทติ้งด้วยการแสดงเพลงประกอบเรื่อง Protect the Boss ก่อนที่จะเริ่มเล่นเกมกับแฟนๆ และปิดการแสดงด้วยเพลง No Gain ที่เป็นเพลงแต่งโดยเขาเอง แต่อยู่ในอัลบั้มเดี่ยวชองจุนซู
   

        แจจุงกล่าวว่า “ผ่านมาประมาณ 1 ปีตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ผมเดินทางไปไต้หวันปีที่แล้วสำหรับทัวรืคอนเสิร์ตทั่วโลก ผมคิดถึงทุกๆ คนครับ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผมหวังว่าแฟนๆ ของผมจะสนุกสนานระหว่าง 2 ชั่วโมงที่ผมมีให้กับแฟนๆ ครับ ผมหวังว่าจะได้พบกับแฟนๆ อีกครั้งเร็วๆ นี้


http://www.blike.net












ยูชอน (Yoochun) ไปถ่ายงานโฆษณาที่เกาะเชจู

ภาพยูชอน (Yoochun) จาก JYJ ถ่ายโฆษณาได้รับความสนใจจากแฟนๆ อย่างมาก








       ภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ทางออนไลน์พร้อมเขียนข้อความว่า “ปาร์คยูชอนถ่ายโฆษณาที่เกาะเชจู” ภาพของเขาที่สวมเครื่องแต่งกายเหมาะกับอยู่ที่ทะเลและนั่งเล่นโอกูเลเล่ ซึ่งทำให้แฟนๆ ต่างสงสัยว่าเขากำลังถ่ายงานโฆษณาประเภทไหนอยู่


http://www.blike.net

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อัพโหลดสู่โลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค ด้วยกล้องดิจิตอล Canon WiFi รุ่นล่าสุด



     แคนนอน เปิดตัวกล้องดิจิตอลคอมแพ็ครุ่นใหม่ล่าสุด 2 รุ่น สำหรับชาวโซเชียลเน็ตเวิร์คตัวจริง IXUS 510 HS และ IXUS 240 HS กับ ฟังก์ชั่น Wi-Fi ในตัวกล้อง และ แอพพลิเคชั่น Camera Window ให้คุณแชร์รูปสวยแบบ Hi-resolution หรือไฟล์วิดีโอแบบ Full HD จากกล้องดิจิตอล IXUS ไปยังอุปกรณ์สมาร์ทโฟน หรือ แทปเล็ททั้งระบบ iOS และ Android แล้วอัพโหลดไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ได้ทันที


พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากมายอาทิ



เลนส์ไวด์พิเศษ 24 มม. ซูมออปติคอล 12X ในรุ่น IXUS 510HS และ เลนส์ไวด์ 28 มม. ซูมออปติคอล 5X ในรุ่น IXUS 240HS

หน้าจอ LCD แบบทัชสกรีนขนาด 2.7”

โหมดออโต้อัจฉริยะ Smart Auto ปรับโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติได้มากถึง 58 แบบ

โหมด Smooth Skin ปรับสีผิวให้สว่างใส

โหมด Soft Focus ปรับโทนสีภาพให้หวานซึ้ง

โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดแบบ Full HD พร้อมระบบกันสั่น Dynamic IS ขณะกำลังถ่ายวีดีโอ

ฟังก์ชั่น Face ID Recognition บันทึกชื่อและจดจำใบหน้าได้ถึง 12 คนในตัวกล้อง และจำได้สูงสุดถึง 5 ภาพต่อคน

ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 5 ลิขสิทธิ์เฉพาะของแคนนอน ให้ภาพสีสันสวยคมชัดในทุกสภาพแสง ลดสัญญาณรบกวนภาพ (noise)

     กล้องดิจิตอลแคนนอนพร้อมฟังก์ชั่น WiFi IXUS 510 HS ราคา 13,900 บาท และ IXUS 240 HS ราคา 10,900 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.canon.co.th




ที่มา Siamphone



Instagram Socialmatic กล้องที่หลุดออกมาจากโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก



        อะไรก็เป็นไปได้ในยุคดิจิตอล เมื่อมีนักดีไซน์ไอเดียกระฉูดแห่ง adr-studio.it ได้ออกแบบกล้องรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Instagram Socialmatic ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแค่คอนเซปต์ที่ยังคงเป็นแค่รูปภาพในจินตนาการยังไม่ได้ผลิตจริงแต่อย่างใด เห็นแล้วก็อึ้งเพราะออกแบบได้จี๊ดจ๊าดน่าใช้ ด้วยหน้าตาที่ถอดแบบมาจากไอคอนของแอพดังอย่าง Instagram มาเป๊ะๆ รูปทรงบางเฉียบ มาพร้อมกับจอทัชสกรีนและพิมพ์ภาพได้ในตัว นอกจากนี้ยังมีหน่วยความจำให้อีก 16GB







         คุณสมบัติของกล้องคอนเซปต์ตัวนี้ คือสามารถที่จะถ่ายภาพในระบบดิจิตอลเพื่อเอาไฟล์ไปแชร์ต่อได้และสามารถที่จะพิมพ์ภาพออกมาจากตัวกล้องได้เลยพร้อมกับมี QR Code ด้วย เอาไว้แปะเป็นที่ระลึกและให้คนอื่นที่มาเห็นรูปของเราได้ติดตามเราผ่าน Instagram หรือจะเขียนคอมเมนท์ที่รูปเหมือนกับเราคอมเมนท์รูปเพื่อนใน Facebook ได้ เจ๋งใช่ไหมล่ะ!




สำหรับสเป็คกล้องตัวนี้ มาดูรายละเอียดกันดีกว่าว่าน่าใช้สักแค่ไหน



หน่วยความจำในตัว 16GB


รองรับ Wifi และ Bluetooth


หน้าจอทัชสกรีน อัตราส่วน 4:3


เลนส์ถ่ายภาพ 2 ตัว สำหรับบันทึกภาพและอีกตัวสำหรับการถ่ายภาพแบบ 3 มิติ สามารถทำงานเป็น Webcam และสแกน QR Code ได้


ระบบซูมแบบ Optical


มีไฟแฟลช LED


สามารถพิมพ์ภาพได้ในตัว


มีกล่องใส่กระดาษอัดรูปสำหรับใส่กระดาษที่จะใช้กับกล้องตัวนี้


มีหมึกพิมพ์ 4 สีแบบ Tank


InstaOs 1.0 ในตัวสำหรับแชร์ภาพได้ทันที



ที่มา TechXcite



Samsung Galaxy S III คาดเตรียมวางขายในไทยปลายเดือนหน้า พร้อมราคาไม่เกิน 22,000 บาท


        สมาร์ทโฟนที่หลายๆ คนต้องการในขณะนี้ เชื่อได้ว่า Samsung Galaxy S III น่าจะเป็นหนึ่งในดวงใจใครหลายๆ คนแน่ๆ ล่าสุดได้มีข่าวเกี่ยวกับตารางการเปิดวางจำหน่ายในหลายๆ ประเทศออกมาแล้ว โดยล็อตแรกเท่าที่มีข่าวมาขณะนี้ก็คือจะเริ่มวางขายใน UK และบางประเทศในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนในไทยและประเทศโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น มีแหล่งข่าวหลายแห่งให้ข้อมูลตรงกันว่าจะเริ่มวางขายในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งก็ตรงกับกำหนดการจัดงาน Thailand International Mobile Show 2012 หรือที่ปกติจะใช้ชื่องานว่า Thailand Mobile Expo พอดี ทำให้มั่นใจว่าน่าจะมีการเปิดจองและขายกันในงานด้วยแน่ๆ







          ส่วนราคานั้น คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วง 19,900 – 21,900 บาทด้วยกัน แต่ถ้าให้เดา ก็คิดว่าน่าจะไม่หนีจากช่วงเปิดตัวของ Samsung Galaxy S II มากครับผม ก็คือช่วงเกือบๆ 20,000 บาท แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูกันอีกทีว่า Samsung จะมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือเปล่า



ที่มา SpecPhone



วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ผลทดสอบค่า Benchmark ของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ออกมาแล้ว ชนะเลิศทุกการทดสอบ




 
         หลังจากเปิดตัว Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) อย่างเป็นทางการ เมื่อค่ำคืนวันที่ 3 พฤษภาคม ในงาน Samsung Mobile UNPACKED 2012 ณ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เรียกได้ว่า สิ่งที่สร้างความสนใจให้ผู้เข้าชมงานมากที่สุด ก็คือ ชิป Exynos 4 Quad ซึ่งเป็นชิปเซ็ทแบบ Quad-core Processor นั่นเอง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.4 GHz  ตามธรรมเนียม เมื่อมีสมาร์ทโฟนระดับเทพเปิดตัวมาใหม่ สิ่งที่เราจะได้เห็นต่อไปนั่นก็คือ การเปรียบเทียบค่า Benchmark ในแต่ละการทดสอบนั่นเอง ซึ่งผลการทดสอบนั้น Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) มาแรงแซงโค้ง ชนะเลิศสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในตลาดขณะนี้





         สำหรับผลการทดสอบ Quadrant ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ปรากฎว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ทำคะแนนได้สูงสุดตามคาด 5642 คะแนน ตามมาด้วย HTC One S และ HTC One X ตามลำดับ







การทดสอบต่อมา Sunspider ทดสอบการทำงานของ Javascript ผ่านเว็บเบราเซอร์ พบว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ยังคงเป็นอันดับ 1 เช่นกัน ตามมาด้วย HTC One S เป็นอันดับที่ 2







     ปิดท้ายด้วยการทดสอบที่สาม BrowserMark ทดสอบประสิทธิภาพของเบราเซอร์ พบว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ยังคงเป็นอันดับ 1 เช่นกัน ตามมาด้วย Samsung Galaxy Note 10.1 และ Samsung Galaxy S II



สำหรับใครที่คิดว่า ควรจะเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) กับ iPhone 4S คิดว่า ไม่น่าจะเป็นคู่แข่งกันได้ครับ เนื่อง iPhone 4S ใช้ซีพียูคนละตัวกับ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ซึ่งถ้าหากจะเปรียบเทียบกัน รอ ไอโฟน 5 (iPhone 5) น่าจะเหมาะสมกว่า



รายละเอียดเพิ่มเติม : phonearena.com

เปิดตัวแล้ว Samsung Galaxy S 3 (III) ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3 พร้อมข้อมูลสเปค และราคาล่าสุด [4-พ.ค.55] : Galaxy S 3 หน้าจอใหญ่ขึ้น 4.8 นิ้ว ซีพียูแบบ Quad-core กล้อง 8 ล้านพิกเซล เริ่มขายปลายเดือน พ.ค.







   เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ในงาน Samsung Mobile UNPACKED 2012 ซึ่งจัดขึ้นที่ Earls Court ณ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตามเวลาในประเทศอังกฤษ หรือประมาณตีหนึ่ง ของวันที่ 4 พฤษภาคม ตามเวลาในประเทศไทยนั่นเอง โดยในงานนี้ ได้มีการเปิดตัว สมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy โดย ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) เรียกได้ว่า เรือธงนัมเบอร์ใหม่จากซัมซุง ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว








        
                                               Earls Court สถานที่จัดงานในครั้งนี้







      เมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราคงได้เห็นข่าวคราวเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)กันมามากพอสมควรครับ ทั้งในเรื่องของสเปค การออกแบบ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมีทั้งข่าวที่ยืนยันแล้ว และข่าวลวง แต่ในวันนี้ เราจะได้ทราบทั้งในเรื่องของ สเปค และการออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) กันอย่างแน่นอน ไปดูกันว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น มีอะไรที่เหนือกว่า เด่นกว่า Samsung Galaxy S II กันบ้าง




      Samsung Galaxy S III หน้าจอขนาดใหญ่ 4.8 นิ้ว แบบ HD Super AMOLED Display ระบบประมวลผลแบบ Quad-core Processor และกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล  และนี่ก็คือ สเปคอย่างเป็นทางการ ของแอนดรอยด์โฟนระดับ High-end ที่หลายๆ คนรอคอย Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ซึ่งการออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น คล้ายคลึงกับ Samsung Galaxy Nexus ครับ โดยสเปคของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) เป็นดังนี้


- จอแสดงผลขนาด 4.8 นิ้ว แบบ HD Super AMOLED Display ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล


- ระบบประมวลผลแบบ Quad-core (Exynos 4 Quad) Processor ความละเอียด 1.4GHz


- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich


- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB


- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB


- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล


- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash มีโหมดถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง 3.3 ภาพต่อวินาที


- User Interface แบบ TouchWiz Nature UX


- รองรับเครือข่าย 3G และ 4G LTE , Bluetooth 4.0, Wi-Fi Direct, DLNA, MHL microUSB port


- รองรับเทคโนโลยี NFC


- ใช้ microSIM


- ตัวเครื่องหนา 8.6 มิลลิเมตร หนัก 133 กรัม


- แบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh


- มี 2 สี ได้แก่ ขาว Marble white และ น้ำเงิน Pebble blue




การออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)

      อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า หน้าตาของ Samsung Galaxy S3 (III) คล้ายกับ Samsung Galaxy Nexus ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การออกแบบ รวมไปถึงขนาดหน้าจอ เพียงแต่ว่า Samsung Galaxy S III นั้น ยังมีปุ่ม Home แบบปุ่มกดจริงอยู่ ในขณะที่ Samsung Galaxy Nexus ไม่มีครับ







                                          Samsung Galaxy S3 (III) สีน้ำเงิน Pebble blue



             จากเดิม ดีไซน์ด้านหลังของ Samsung Galaxy S II นั้น จะเป็นพลาสติก ผิวขรุขระครับ แต่ Samsung Galaxy S III นั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวใหม่ เป็นบอดี้แบบพลาสติกผิวมันวาวแทน นอกจากนี้ ขอบรอบๆ ตัวเครื่อง (Samsung Galaxy S 3)นั้น ก็ยังคงเป็นพลาสติกอีกเช่นกัน ไม่ใช่เมทัลลิกครับ







                              Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)สีขาว Marble white




        สำหรับปุ่ม Home นั้น ยังคงเป็นปุ่มแบบ physical ซึ่งกดได้จริง ไม่ใช่ปุ่มแบบ capacitive หรือปุ่มเสมือนจริงครับ โดยการออกแบบปุ่ม Home บน Samsung Galaxy S III นั้น มีรูปร่างที่เพรียวบางกว่า Samsung Galaxy S II นอกจากนี้ ไอคอน UI นั้น ยังเป็นแบบ 5 แถว ในขณะที่ Samsung Galaxy S II มีเพียงแค่ 4 แถว นั่นเป็นเพราะ Samsung Galaxy S III นั้น มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่านั่นเอง



      กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์มากมาย


        ใครที่คาดหวังว่า Samsung Galaxy S III นั้น จะมีความละเอียดของกล้องดิจิตอลด้านหลังถึง 12 ล้านพิกเซล คงต้องผิดหวังไปตามๆ กันครับ เนื่องจาก Samsung Galaxy S III มีความละเอียดเซนเซอร์กล้องแค่ 8 ล้านพิกเซลเท่านั้น ซึ่งเป็นความละเอียดที่เท่ากับ Samsung Galaxy S II และ Samsung Galaxy Note นั่นเอง อย่างไรก็ดี กล้องดิจิตอลบน (Samsung Galaxy S 3) นั้น ได้พกฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามามากมาย ดังนี้



- Zero shutter lag หมดห่วงเรื่องชัตเตอร์ช้า ชัดเตอร์ค้าง


- ใช้เวลาเปิดใช้งานกล้องไม่ถึง 1 วินาที


- Burst shot ถ่ายได้ 20 รูปในคราวเดียว


- โหมดถ่ายภาพรัวได้ 3.3 ภาพต่อวินาที หลังจากนั้นเลือกภาพที่ดีที่สุด


- กล้องด้านหน้า ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดระดับ HD


- สามารถ capture ภาพไปพร้อมๆ กับการถ่ายวิดีโอ ในเวลาเดียวกันได้


- Video stabilisation ลดการสั่นไหวของภาพ
S Voice สั่งการด้วยเสียง



      ในเมื่อ iOS มี Siri เป็นผู้ช่วยไปแล้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์บนสมาร์ทโฟนซัมซุงอย่าง Samsung Galaxy S 3(III) ก็มี S Voice เป็นเลขาเช่นกัน ซึ่งคุณสมบัติของ S Voice นั้น สามารถสั่งให้ Samsung Galaxy S 3(III) เปิดแกลอรี่ภาพถ่าย หรือสั่งให้กดชัตเตอร์เอง โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องสัมผัสปุ่มชัตเตอร์แต่อย่างใด  ถึงแม้ Samsung Galaxy S3 (III) (ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3)จะไม่มีปุ่ม Shutter มาให้ แต่ผู้ใช้งานสามารถสั่งให้ชัตเตอร์ได้ ด้วยการใช้ S Voice นั่นเองครับ ถือว่า เป็นฟังก์ชั่นที่สะดวกมากเลยทีเดียว S Voice รองรับทั้งหมด 8 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ​(สหรัฐอเมริกา), ภาษาอังกฤษ (สหราชอาณาจักร), ภาษาอิตาลี, ภาษาเยอรมัน, ภาษาเมดิเตอร์เรเนียน, ภาษาละติน, ภาษาสเปน และภาษาเกาหลี


S Beam ส่งภาพถ่ายหรือวิดีโอ


       คงจะพอจำกันได้ กับฟีเจอร์ Android Beam บน Samsung Galaxy Nexus ซึ่งบน Samsung Galaxy S3 (III) นั้น ก็มีฟีเจอร์นี้เช่นกัน ซึ่งมีชื่อว่า S Beam ครับ โดยผู้ใช้งาน (ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3)สามารถส่งภาพ หรือวิดีโอ ผ่าน NFC หรือ WiFi Direct ได้ ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 300 Mbps




Eye-tracking ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวของลูกตา


        บ่อยครั้งที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน จำเป็นต้องสัมผัสหน้าจอบ่อยๆ เนื่องจากหน้าจอจะดับลงถ้าหากไม่มีการสัมผัสเกินเวลาที่กำหนด แต่บน Samsung Galaxy S 3(III) นั้น มีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของลูกตา ทำให้หน้าจอ(ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3)ไม่ปิด หรือสลัวลง ถ้าหากผู้ใช้งานยังคงมองหน้าจออยู่


รองรับเครือข่าย 4G

เพิ่มประสิทธิภาพในการท่องโลกอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น ด้วยคุณสมบัติในการรองรับเครือข่าย 4G LTE ซึ่ง Samsung Galaxy S3 (III) จะจำหน่ายทั้งรุ่นที่รองรับ 3G เพียงอย่างเดียว และรุ่นที่รองรับ 4G LTE โดย Samsung Galaxy S III รุ่นรองรับเครือข่าย 4G LTE นั้น จะวางจำหน่ายในช่วงหน้าร้อนนี้ หรือประมาณเดือนกรกฏาคมนั่นเอง

วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สรุปสเปก Samsung Galaxy S3 พร้อมคลิปวิดีโอและภาพตัวเครื่อง


       สิ้นสุดการรอคอยเสียทีสำหรับสาวก Galaxy เพราะล่าสุดทางซัมซุงได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy ใหม่แล้วในชื่อรุ่น "Samsung Galaxy S3" โดยในส่วนสเปกจะมีดังต่อไปนี้




สเปก Samsung Galaxy S3


- การออกแบบ เน้นเรื่องรูปทรง human-centric nature แนวคิดจากธรรมชาติ

- วัสดุพลาสติกแบบ HyperGraze

- น้ำหนักตัวเครื่อง 133 กรัม

- หนาประมาณ 8.6 มม.

- CPU Quad Core Exynos 1.4GHz (Exynos 4212 Chipset)

- หน้าจอ 4.8 นิ้ว HD Super AMOLED

- กล้องหลัง 8 ล้าน มี LED Flash

- กล้องหน้า 1.9MP

- แบตเตอร์รี่ 2,100 mAh

- ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4

- แรม 1GB

- รองรับทั้ง HSPA+ และ LTE

- User Interface ออกแบบใหม่ในชื่อ "TouchWiz Nature UX"
 
 
 


      ในส่วนฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่และสำคัญสุดคงอยู่ที่ S Voice หรือระบบสั่งงานด้วยเสียง (คล้าย Siri ของแอปเปิล) ที่ทางซัมซุงพัฒนาเอง โดย S Voice จะรองรับ 8 ภาษาได้แก่ ภาษาอังกฤษ​(สหรัฐอเมริกา), ภาษาอังกฤษ (สหราชอาณาจักร), ภาษาอิตาลี, ภาษาเยอรมัน, ภาษาเมดิเตอร์เรเนียน, ภาษาละติน, ภาษาสเปน และภาษาเกาหลี  นอกจากนั้นทางซัมซุงยังได้ปรับปรุงกล้องถ่ายภาพให้ทำงานรวดเร็วขึ้น โดยใช้เวลาเปิดกล้องถ่ายภาพเพียง 1 วินาที และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่อง (Burst Shot) ได้ 20 รูปต่อการกดชัตเตอร์หนึ่งครั้ง อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ Best Photo ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกชอตถ่ายภาพที่ดีที่สุดได้ และในส่วนการบันทึกวิดีโอยังรองรับระบบลดภาพสั่นไหว (Video stabilisation) รวมถึงความสามารถในการถ่ายภาพนิ่งขณะบันทึกวิดีโอได้ด้วย
      มาที่ฟีเจอร์ Pop up Play จะสามารถเปิดใช้งานแอปฯ ได้มากกว่า 1 แอปฯ ในเวลาเดียวกัน เช่น คุณสามารถพิมพ์ข้อความได้ขณะรับชมภาพยนตร์ Full HD ได้ ต่อมาที่ Smart Stay ที่เป็นระบบสั่งเปิด-ปิด หน้าจอได้เอง โดยใช้การตรวจจับวัตถุตรงหน้า เช่น ถ้าผู้อ่านใช้งานสมาร์ทโฟนอยู่หน้าจอจะไม่ดับลง ส่วนเมื่อผู้อ่านวางสมาร์ทโฟนทิ้งไว้หน้าจอจะทำการปิดตัวเองอัตโนมัติ

สุดท้ายมาที่ระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง NFC และ S Beam แบบ WiFi Direct และในส่วนของ Gallery จะเพิ่มระบบจดจำใบหน้าบุคคลสำหรับใช้เชื่อมต่อกับบัญชี Social เช่น Facebook อีกทั้งทางซัมซุงยังได้เปิด GameHUB และ MusicHUB ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการจับคู่เพลงที่เราฟังได้คล้ายกับ iTunes Match
ในส่วนวันวางจำหน่ายคือวันที่ 29 พฤษภาคม ในแถบยุโรปก่อน ส่วนบ้านเราคงต้องรอต่อไป และสำหรับราคายังไม่มีกำหนดออกมาในตอนนี้



ข้อมูลจาก

http://www.manager.co.th

วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เผยแล้ว เบื้องหลังกลุ่มคนชุดดำ Wake Up ในออสเตรเลีย คือ RIM !!



      อ้างอิงจากข่าวก่อนหน้า เรื่องของกลุ่มคนชุดดำ ที่มาถือว่าที่มีตัวอักษรว่า Wake Up หน้าร้าน Apple Store ในออสเตรเลีย ที่มีผู้ให้ความเห็นว่า เบื้องหลังของกลุ่มคนชุดดำเหล่านี้ คือ ซัมซุง โดยซัมซุง ออสเตรเลียได้ออกมาปฏิเสธแล้วในเบื้องต้นว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับกลุ่มผู้ประท้วงแคมเปญ Wake Up นี้ ทำให้ยังคงมีการสืบหาต่อไปว่า ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังแคมเปญดังกล่าวนี้กันแน่




       ล่าสุด ปริศนาดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อทาง RIM ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังอย่าง BlackBerry ได้ออกมายอมรับแล้วว่า เป็นผู้ที่คิดค้นแคมเปญ Wake Up นี้เอง โดยจะจัดเป็นกิจกรรมทั้งที่ซิดนี่ย์ และเมลเบิร์น ในออสเตรเลีย ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนี้ จะถูกเปิดเผยในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้



แต่กว่าจะออกมายอมรับ ซัมซุงก็โดนคนวิจารณ์ไปหลายกระทงแล้วเรียบร้อย...

รายละเอียดเพิ่มเติม : cnet.com

Old Town