วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เปิดตัวแล้ว Samsung Galaxy S 3 (III) ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3 พร้อมข้อมูลสเปค และราคาล่าสุด [4-พ.ค.55] : Galaxy S 3 หน้าจอใหญ่ขึ้น 4.8 นิ้ว ซีพียูแบบ Quad-core กล้อง 8 ล้านพิกเซล เริ่มขายปลายเดือน พ.ค.







   เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ในงาน Samsung Mobile UNPACKED 2012 ซึ่งจัดขึ้นที่ Earls Court ณ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตามเวลาในประเทศอังกฤษ หรือประมาณตีหนึ่ง ของวันที่ 4 พฤษภาคม ตามเวลาในประเทศไทยนั่นเอง โดยในงานนี้ ได้มีการเปิดตัว สมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy โดย ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) เรียกได้ว่า เรือธงนัมเบอร์ใหม่จากซัมซุง ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว








        
                                               Earls Court สถานที่จัดงานในครั้งนี้







      เมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราคงได้เห็นข่าวคราวเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)กันมามากพอสมควรครับ ทั้งในเรื่องของสเปค การออกแบบ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมีทั้งข่าวที่ยืนยันแล้ว และข่าวลวง แต่ในวันนี้ เราจะได้ทราบทั้งในเรื่องของ สเปค และการออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) กันอย่างแน่นอน ไปดูกันว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น มีอะไรที่เหนือกว่า เด่นกว่า Samsung Galaxy S II กันบ้าง




      Samsung Galaxy S III หน้าจอขนาดใหญ่ 4.8 นิ้ว แบบ HD Super AMOLED Display ระบบประมวลผลแบบ Quad-core Processor และกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล  และนี่ก็คือ สเปคอย่างเป็นทางการ ของแอนดรอยด์โฟนระดับ High-end ที่หลายๆ คนรอคอย Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ซึ่งการออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น คล้ายคลึงกับ Samsung Galaxy Nexus ครับ โดยสเปคของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) เป็นดังนี้


- จอแสดงผลขนาด 4.8 นิ้ว แบบ HD Super AMOLED Display ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล


- ระบบประมวลผลแบบ Quad-core (Exynos 4 Quad) Processor ความละเอียด 1.4GHz


- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich


- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB


- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB


- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล


- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash มีโหมดถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง 3.3 ภาพต่อวินาที


- User Interface แบบ TouchWiz Nature UX


- รองรับเครือข่าย 3G และ 4G LTE , Bluetooth 4.0, Wi-Fi Direct, DLNA, MHL microUSB port


- รองรับเทคโนโลยี NFC


- ใช้ microSIM


- ตัวเครื่องหนา 8.6 มิลลิเมตร หนัก 133 กรัม


- แบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh


- มี 2 สี ได้แก่ ขาว Marble white และ น้ำเงิน Pebble blue




การออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)

      อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า หน้าตาของ Samsung Galaxy S3 (III) คล้ายกับ Samsung Galaxy Nexus ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การออกแบบ รวมไปถึงขนาดหน้าจอ เพียงแต่ว่า Samsung Galaxy S III นั้น ยังมีปุ่ม Home แบบปุ่มกดจริงอยู่ ในขณะที่ Samsung Galaxy Nexus ไม่มีครับ







                                          Samsung Galaxy S3 (III) สีน้ำเงิน Pebble blue



             จากเดิม ดีไซน์ด้านหลังของ Samsung Galaxy S II นั้น จะเป็นพลาสติก ผิวขรุขระครับ แต่ Samsung Galaxy S III นั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวใหม่ เป็นบอดี้แบบพลาสติกผิวมันวาวแทน นอกจากนี้ ขอบรอบๆ ตัวเครื่อง (Samsung Galaxy S 3)นั้น ก็ยังคงเป็นพลาสติกอีกเช่นกัน ไม่ใช่เมทัลลิกครับ







                              Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)สีขาว Marble white




        สำหรับปุ่ม Home นั้น ยังคงเป็นปุ่มแบบ physical ซึ่งกดได้จริง ไม่ใช่ปุ่มแบบ capacitive หรือปุ่มเสมือนจริงครับ โดยการออกแบบปุ่ม Home บน Samsung Galaxy S III นั้น มีรูปร่างที่เพรียวบางกว่า Samsung Galaxy S II นอกจากนี้ ไอคอน UI นั้น ยังเป็นแบบ 5 แถว ในขณะที่ Samsung Galaxy S II มีเพียงแค่ 4 แถว นั่นเป็นเพราะ Samsung Galaxy S III นั้น มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่านั่นเอง



      กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์มากมาย


        ใครที่คาดหวังว่า Samsung Galaxy S III นั้น จะมีความละเอียดของกล้องดิจิตอลด้านหลังถึง 12 ล้านพิกเซล คงต้องผิดหวังไปตามๆ กันครับ เนื่องจาก Samsung Galaxy S III มีความละเอียดเซนเซอร์กล้องแค่ 8 ล้านพิกเซลเท่านั้น ซึ่งเป็นความละเอียดที่เท่ากับ Samsung Galaxy S II และ Samsung Galaxy Note นั่นเอง อย่างไรก็ดี กล้องดิจิตอลบน (Samsung Galaxy S 3) นั้น ได้พกฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามามากมาย ดังนี้



- Zero shutter lag หมดห่วงเรื่องชัตเตอร์ช้า ชัดเตอร์ค้าง


- ใช้เวลาเปิดใช้งานกล้องไม่ถึง 1 วินาที


- Burst shot ถ่ายได้ 20 รูปในคราวเดียว


- โหมดถ่ายภาพรัวได้ 3.3 ภาพต่อวินาที หลังจากนั้นเลือกภาพที่ดีที่สุด


- กล้องด้านหน้า ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดระดับ HD


- สามารถ capture ภาพไปพร้อมๆ กับการถ่ายวิดีโอ ในเวลาเดียวกันได้


- Video stabilisation ลดการสั่นไหวของภาพ
S Voice สั่งการด้วยเสียง



      ในเมื่อ iOS มี Siri เป็นผู้ช่วยไปแล้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์บนสมาร์ทโฟนซัมซุงอย่าง Samsung Galaxy S 3(III) ก็มี S Voice เป็นเลขาเช่นกัน ซึ่งคุณสมบัติของ S Voice นั้น สามารถสั่งให้ Samsung Galaxy S 3(III) เปิดแกลอรี่ภาพถ่าย หรือสั่งให้กดชัตเตอร์เอง โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องสัมผัสปุ่มชัตเตอร์แต่อย่างใด  ถึงแม้ Samsung Galaxy S3 (III) (ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3)จะไม่มีปุ่ม Shutter มาให้ แต่ผู้ใช้งานสามารถสั่งให้ชัตเตอร์ได้ ด้วยการใช้ S Voice นั่นเองครับ ถือว่า เป็นฟังก์ชั่นที่สะดวกมากเลยทีเดียว S Voice รองรับทั้งหมด 8 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ​(สหรัฐอเมริกา), ภาษาอังกฤษ (สหราชอาณาจักร), ภาษาอิตาลี, ภาษาเยอรมัน, ภาษาเมดิเตอร์เรเนียน, ภาษาละติน, ภาษาสเปน และภาษาเกาหลี


S Beam ส่งภาพถ่ายหรือวิดีโอ


       คงจะพอจำกันได้ กับฟีเจอร์ Android Beam บน Samsung Galaxy Nexus ซึ่งบน Samsung Galaxy S3 (III) นั้น ก็มีฟีเจอร์นี้เช่นกัน ซึ่งมีชื่อว่า S Beam ครับ โดยผู้ใช้งาน (ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3)สามารถส่งภาพ หรือวิดีโอ ผ่าน NFC หรือ WiFi Direct ได้ ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 300 Mbps




Eye-tracking ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวของลูกตา


        บ่อยครั้งที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน จำเป็นต้องสัมผัสหน้าจอบ่อยๆ เนื่องจากหน้าจอจะดับลงถ้าหากไม่มีการสัมผัสเกินเวลาที่กำหนด แต่บน Samsung Galaxy S 3(III) นั้น มีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของลูกตา ทำให้หน้าจอ(ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3)ไม่ปิด หรือสลัวลง ถ้าหากผู้ใช้งานยังคงมองหน้าจออยู่


รองรับเครือข่าย 4G

เพิ่มประสิทธิภาพในการท่องโลกอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น ด้วยคุณสมบัติในการรองรับเครือข่าย 4G LTE ซึ่ง Samsung Galaxy S3 (III) จะจำหน่ายทั้งรุ่นที่รองรับ 3G เพียงอย่างเดียว และรุ่นที่รองรับ 4G LTE โดย Samsung Galaxy S III รุ่นรองรับเครือข่าย 4G LTE นั้น จะวางจำหน่ายในช่วงหน้าร้อนนี้ หรือประมาณเดือนกรกฏาคมนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

Old Town