วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553

อีทึกเหตุผลพิเศษที่ทำให้เขากลายเป็น....

Super Jr'♥ Leeteuk เหตุผลพิเศษที่ทำให้เขากลายเป็น, The next generation ซุปเปอร์จูเนียร์ อีทึก ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพิธีกรแถวหน้ารุ่นใหม่ ต่อจากคังโฮดงและยูแจซอก เมื่อไม่นานมากนี้ ในรายการ 'Strong Heart' ทางสถานี SBS รวมถึง 'Star King' อึทึกได้แสดงวาทศิลป์ที่ยอดเยี่ยมเรียกความสนใจจากผู้ชมได้ทั่วหน้า โดยเฉพาะในรายการ 'Strong Heart' เขาได้รับโอกาสใน 'Teuk Academy' ซึ่งกลายเป็นช่วงที่ไม่ใช่แค่เป็นความคาดหวังของผู้ชมแต่แขกรับเชิญดาราก็เช่นกันณ ตอนนี้ อีทึกอาจเป็นเพียงแค่ผู้ที่อยู่ข้างพืธีกรหลัก แต่ความสามารถในการควบคุมแขกรับเชิญ เป็นไปได้ที่ให้เขาจะกลายเป็นพิธีกรแถวหน้ารุ่นใหม่ของวงการบันเทิง


▶ พรสวรรค์

ตัวตนที่แท้จริงไม่ได้มีประโยชน์?อีทึกไม่ได้มีความสามารถหรือบทบาทพิเศษอะไร เขาไม่ได้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ยอดเยี่ยม และไม่ใช่คนที่มีสเน่ห์อันโดดเด่น เขายังมีข้อเสียเวลาออกรายการวาไรตี้ต่างๆ แถมลำดับความนิยมในตัวเขาเมื่อเทียบกับสมาชิกซูจูคนอื่นๆก็อยู่ในช่วงกลาง-สูง แต่จุดนี้กลับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะพิธีกรแทนที่จะเป็นไอดอลผู้โด่งดัง


ผมกลับยอมที่จะเป็นตัวช่วยให้คนรอบๆตัวผมโดดเด่น คงเพราะไม่มีจุดเด่นอะไร ผมจึงตัดสินใจว่า 'เราอยู่อย่างมั่งคงเถอะ' ผมคิดว่าการเป็นน้ำมันเพื่อช่วยให้ฟันเฟืองหมุนได้ราบรื่นก็เหมือนกับการเป็นพิธีกร อีกอย่าง ผมได้รับการตอบรับที่ดีในรายการวาไรตี้ ผมสามารถเติบโตอย่างช้าๆในจุดนี้ครับจุดดีของอีทึกคือเมื่ออยู่บนเวที เขาจะแสดงเสน่ห์และพรสวรรค์จนทำให้สาวๆเคลิบเคลิ้ม แต่กับในรายการวาไรตี้ เขาจะไม่ลังเลที่จะลบภาพไอดอลทรงเสน่ห์และกลายเป็นนักแสดงตลกทันทีเพราะคุณบอกว่าผมคือไอดอล ผมควรที่จะรักษาภาพลักษณ์อย่างดีที่สุดและเป็นสิ่งมหัศจรรย์ใช่ไม๊?ผมคิดว่าระยะเวลาของการเป็นไอดอลคือ 5 ปี ถ้าคุณอยากจะทำงานในระยะยาว คุณต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ มันดีที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ แต่ผมคิดว่าการได้รับความรักในระยะยาวมันสำคัญกว่า▶ อาจารย์ทั้ง 2 ของผมคือ คังโฮดง และ บูมอึทึก ถือว่าคังโฮดง และบูม คือ 2 อาจารย์ที่สำคัญแก่เขา คังโฮดงสอนเขาในเรื่อง


ความจริงในรายการวาไรตี้ส่วนบูม เขาได้เรียนรู้การเสียสละตนเองอย่างช้าๆ และควบคุมความพอเหมาะเมื่ออยู่ร่วมกับดาราคนอื่นๆเพียงมองไปที่รุ่นพี่คังโฮดง ผมรู้สึกเหมือนได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายจากเขา บางครั้งเขาโทรมาหาตอนที่อยู่ห้องพักและพูดว่า 'นั่งลงที่นี่ต่อจากฉันนะ' ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับ 'ความจริงในรายการวาไรตี้' ได้ศึกษาสิ่งต่างๆตลอดเวลาและดูเขาปรึกษากับทีมงาน มีวันนึงโฮดงฮยอง ให้คำแนะนำกับผมว่า 'ถ้านายอยากประสบความสำเร็จในฐานะพิธีกร นายต้องการประสบการณ์อีก 10 ปี อย่าใจร้อน และเดินไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างมั่นคง' 'ทึกกิกาโย' ของอีทึก เป็นส่วนหนึ่งในช่วงที่เขาทำร่วมกับบูม ซึ่งมีชื่อว่า 'Boom Academy' แต่เมื่อบูมต้องไปรับใช้ชาติอีทึกจึงต้องทำความรู้จักตัวเองและแสดงศักยภาพของเขา3 ปีที่ผ่านมาก ผมร่วมงาน 6 รายการ กับบูมฮยอง เขาเป็นพี่ชายที่ช่วยผมมากมาย ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไปรับใช้ชาติ แต่เขาก็ยังติดต่อ ให้กำลังใจและคำแนะนำแก่ผม ผมอยากดูแลต่ำแหน่งนี้ให้ดีจนกว่าบูมฮยองจะปลดประจำการ ถึงตอนนั้น พวกเราจะต้องประสบความสำเร็จมากกว่าตอนนี้ครับ



▶ การจัดการตารางที่เหนื่อยล้าไม่มีวันหยุดในตารางงานของอีทึก
ทุกๆคืนเวลา 4 ทุ่ม เขารับหน้าที่เป็นดีเจในรายการ 'Kiss the Radio' ทาง KBS 2FM และเป็นแขกรับเชิญประจำให้กับ 'Strong Heart' และ 'Star King' นอกจากนี้เขายังต้องขมักเขม่นกับการเตรียม อัลบัม 4 ของซุปเปอร์จูเนียร์ ที่มีกำหนดปล่อยในเดือนพฤษภาคม รวมถึงซ้อมสำหรับเอเชียทัวร์ทุกๆสุดสัปดาห์ มันช่างห่างไกลกับคำว่าพักผ่อน เขาขาดแม้กระทั่งเวลานอน แต่อีทึกก็ไม่ลืมที่จะหาของประกอบสำหรับ 'ทึกกิกาโย' ของประกอบ ถือเป็นหัวใจหลักของช่วง 'ทึกกิกาโย' ทุกวันหลังจากหมดตารางจัดรายการวิทยุ ผมจะกลับไปที่หอพักและประชุมหาไอเดียใหม่ๆร่วมกับ อึนฮยอกและชินดง พวกเราหาสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับแขกรับเชิญและหารูปภาพตลกๆของพวกเขา จากนั้นจึงโทรปรึกษากับนักเขียนบทนูนา และซ้อมตามสคริปนั่นครับ พวกเราจะหาสิ่งที่ดีกว่าเพื่อผลตอบรับที่ดีที่สุด ดูเหมือนไหล่ของผมจะรับน้ำหนักไว้มากจริงๆไม่ว่าสุดท้ายงานจะเสร็จสิ้นกี่โมง ผมจะไปที่ยิมออกกำลังกายต่อ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ตี2 เป็นเวลาออกกำลังกายปกติของผมผมจะฝึกยกน้ำหนักประมาณ 1-2 ชั่วโมง และต่อด้วยเต้นแอโรบิคครับผู้ฝึกสอนลียองมัน ไม่เคยหลับ เขาจะรอผมเพื่อช่วยผมออกกำลังกายครับ ผมรู้สึกขอบคุณและขอโทษเขาในเวลาเดียวกัน
▶ ซุปเปอร์จูเนียร์ คือทุกสิ่งทุกอย่างของผมอีทึกผูกพันกับซุปเปอร์จูเนียร์มากกว่าสิ่งใด ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานในฐานะพิธีกร
แต่ก็จะคิดถึงสมาชิกซุปเปอร์จูเนียร์ก่อนทุกสิ่งในปี 2009 เขายินดีอย่างมากที่อัลบัม 3 'Sorry Sorry' กลายป็นเพลงฮิตและโด่งดังทั่วเอเชีย แต่เขาก็เจ็บปวดกับเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับสมาชิกบางคน นั่นคงเป็นเพราะความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าวงปี 2009 ถึงเป็นปีที่มีความหมายสำหรับซุปเปอร์จูเนียร์ แต่เรื่องที่ฮันคยองไม่ได้อยู่กับเรา และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคังอิน เป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดอย่างมากกับพวกเรา ครั้งแรกที่เกิดเหตุไม่ดีกับคังอิน ผมให้กำลังใจเขาและพูดว่า 'มันยังโอเค' แต่สำหรับครั้งที่สอง ผมตำหนิเขา มันเป็นเพราะความผิดหวังของผม แต่คังอินยังคงเป็นสมาชิกที่สำคัญ และเมื่อไรก็ตามที่ฮันคยองกลับมา พวกเราพร้อมที่จะอ้าแขนรับเขาอย่างอบอุ่นครับไม่นานมานี้ อีทีกมีความสุขกับการแสดงเอเชียทัวร์ มันได้รับผลตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากแฟนๆต่างประเทศคอนเสิร์ตที่ไต้หวัน ตอนที่ดาราของที่นั้นเต้นเพลง 'Sorry Sorry' ผมมีความสุขมากครับ ผมเชื่อมั่นมากกับการเริ่มโปรโมทในต่างประเทศ แต่มันน่าเสียดายที่สมาชิกบางคนไม่อยู่กับพวกเรา เมื่อสมาชิกทั้ง 13 อยู่ด้วยกันคือเวลาที่พวกเราเป็นซุปเปอร์จูเนียร์อย่างแท้จริง
Source : SJ-marketCredits: Jihee @ Sj-world.netTrans Thai : HIYOKO22@13MKHhttp://www.13monkeyshouse.com

ไม่มีความคิดเห็น:

Old Town